ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
ดู: 1196|ตอบกลับ: 2

แชร์ประสบการณ์พักฟื้นหลังขลิบไร้เลือด+ตัดเส้น (เคสเลือดซึมเยอะ แม็กซ์ไม่หลุด)

[คัดลอกลิงก์]

  ออฟไลน์ 

อัพเกรด  0.59%

Vel.
1%

3

กระทู้

5

ตอบกลับ

20 หมื่น

เครดิต

ผู้มีประสบการณ์

เครดิต
201766

เข็มประดับยศ 1เข็มประดับยศ 2เข็มประดับยศ 3

สวัสดีครับ วันนี้ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์ช่วงพักฟื้นหลังขลิบ ที่หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังจะขลิบนะครับ


ก่อนอื่นเลย ผมคิดว่าการได้รับข่าวสารจากสื่อโฆษณาต่างๆ ที่บอกว่า ขลิบไร้เลือด ไม่เจ็บ แผลหายเร็ว หรือการดูรีวิวภาพหลังขลิบ ที่หลายๆ ท่านโพสต์กัน เป็นสิ่งที่ดี ทำให้คนที่มีความจำเป็นต้องขลิบแต่ยังกลัวอยู่ มีกำลังใจ ซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้บางท่าน (รวมถึงผมด้วย) โลกสวย นึกว่า มันสบายๆ ไม่มีปัญหา กระทู้นี้ ผมเลยอยากเล่าในมุมมองของผม ที่รู้สึกว่าช่วงพักฟื้น (ประมาณ 4 สัปดาห์) อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ไม่สบายนัก ถ้าท่านเป็นผู้โชคร้ายเหมือนผมครับ แต่ทั้งนี้ อย่าได้กลัวจนเกินไปนะครับ เพราะผลลัพท์ที่ได้จากการอดทน คุ้มค่าครับ


เริ่มต้นจากที่ผมอายุ 45 ปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีความสุขกับเซ็กส์เท่าไหร่ เนื่องจากน้องชายมีปัญหาเวลาสอดใส่จะรั้งจนแสบเลยไม่ค่อยได้มีเซ็กส์ ไปมีความสุขกับการช่วยตัวเองที่เราพอจะออมแรงตอนชักได้ ก็อายุขนาดนี้แล้ว จริงๆ ไม่ต้องไปทำก็ได้ แต่อย่างที่บอก โลกสวย เห็นโฆษณา อ่านรีวิว คือดูเหมือนการขลิบมันไม่มีอะไร เข้าไปทำ ออกมาสวย ก็เลยตัดสินใจทำครับ


มาเข้าเรื่องกันครับ แทนที่จะเล่าเป็น Timeline ผมจะขอเน้นเล่าเป็นประเด็นปัญหาที่เจอ และวิธีการรับมือกับปัญหา โดยขอไม่พาดพิงใครนะครับ


** ต้องเข้าใจว่าสถานที่ให้บริการขลิบแต่ละที่ ประสบการณ์การใช้บริการจะไม่เหมือนกันนะครับ **


สถานที่ที่ผมไป เป็นโรงพยาบาล ที่เอาจริงๆ ผมคิดว่าเค้าเหมือนคลินิกความงามมากกว่า ตั้งแต่เรื่องช่องทางติดต่อ ผมมารู้ทีหลังว่าถ้าเพจเค้ามีหลายเพจมาก แต่ละเพจจะมีเบอร์ติดต่อผู้ช่วยเป็นคนๆ ไป ผมเข้าใจว่าคงเป็นเรื่องการแข่งกันทำยอด แล้วการที่เราติดต่อผู้ช่วยคนไหน ก็ต้องรักษากับหมอที่เป็นทีมเดียวกับผู้ช่วยคนนั้นด้วยนะครับ


ตัวผู้ช่วยคนนี้ก็จะทำหน้าที่เป็นเหมือนเซลล์นะครับ คอยสอบถามเรื่องความต้องการ การดูราคา ให้ส่วนลดต่างๆ ครับ ซึ่งก็ดีนะ คุยแล้วจบเลย พอจบเรียบร้อย ก็คือเข้าไปห้องหัตถการเลย เสร็จเรียบร้อย (งานขลิบไร้เลือด+ตัดเส้น คือเร็ว เจ็บแค่ตอนฉีดยาชา ตามที่ทราบๆกันดี)


ช่วงตอนพักฟื้นนี่สิครับ ผมว่าไม่ค่อยเวิร์ค คุณผู้ช่วยคนนี้เค้าเป็น เซลล์ที่ดีมากนะครับ ช่วยเรื่องราคาจริงๆ แต่เนื่องจากคุณเค้าไม่มีความรู้ทางการแพทย์ เวลาเกิดปัญหา (ซึ่งจะเล่าปัญหาในหัวข้อต่อๆไป) บางครั้งเค้าก็ตอบคำถามเราแบบไม่ผ่านหมอ ก็อาจจะฟังดูไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่น่ะครับ พอเราอยู่ในภาวะกังวลกับปัญหา แล้วได้คำตอบที่ฟังดูไม่น่าไว้ใจ คุณผู้อ่านคงพอจะเข้าใจความรู้สึกผมตอนนั้นนะครับ สุดท้าย การแก้ปัญหาคือ นัดหมอดูแผลเลยครับ เวลาอยู่หน้างานกับหมอ หมออธิบายและประเมินความรุนแรงของปัญหา ให้เราได้เข้าใจและลดความกังวลได้ครับ


แต่ทั้งนี้ การให้บริการแบบมีผู้ช่วยเป็นผู้ดูแล ก็ดีตรงที่ เค้าจะเป็นผู้ประสานงานที่ดี และรวดเร็วมาก ในเรื่องการนัดหมาย จองคิว ประมาณนี้นะ ตอบไลน์ไว ก็สะดวกไปอีกแบบครับ



>> ประเด็นข้อนี้ผมเพียงอยากเล่าให้ทุกท่านที่กำลังมองหาสถานที่ขลิบทราบ เพื่อที่จะพิจารณาสถานที่ที่ท่านแฮปปี้ที่สุดทั้งการเข้าใช้บริการและการดูแลหลังพักฟื้นครับ


** คนอื่นเค้าแผลแห้งใน 7 วัน แต่เคสผมวันที่ 7 เลือดไหลเป็นหยดครับ **


ตามหัวข้อเลยครับ หลังขลิบ ผมไม่แกะผ้าพันตามที่หมอสั่งเป็นเวลา 3 วัน มาเริ่มอาบน้ำให้แผลโดนน้ำบ้างในวันที่ 5 (วันที่ 4 ผมเช็ดแผลด้วยน้ำเกลือ ทาขี้ผึ้ง พันแผลก่อน)  วันที่ 6 มีอุบัติเหตุผ้าพันหลุดบ่อยครับ เนื่องจากน้องชายผมสั้น แล้วผมนั่งเก้าอี้ทำงานเยอะ ซึ่งก็คงทำให้น้องชายยิ่งหดและผ้าพันหลุด  เลยน่าจะเป็นเหตุผลที่แผลเปิดหรือเปล่าไม่รู้ วันที่ 7 ตอนเช้า แกะผ้าพันเก่าออกก็ไม่มีคราบเลือด แต่พอเช็ดแผลก็เจอว่าเลือดออก เอาไม้พันสำลีปาดดู ได้ลิ่มเลือดมาหยดใหญ่ๆ 1 หยด


อย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้เรื่องคุณผู้ช่วยครับ ผมก็ประสานงานกับทางผู้ช่วยตั้งแต่วันที่ 7 ส่งรูปให้ดู เค้าก็บอกว่าปกติ วันที่ 8 เลือดยังซึมๆ เลยส่งรูปอีก เค้าบอกโอเค ดูแลแผลเหมือนเดิม วันที่ 9 ส่งรูปอีก วันนี้ตั้งใจถามว่าคุณหมอได้ดูรูปไหม เพราะก่อนนี้เห็นรูปปุ๊บตอบปั๊บเลย เค้าบอกว่าส่งให้คุณหมอแล้ว แต่คุณหมอไม่ได้ว่าอะไร สุดท้าย เมื่อผมรู้สึกไม่ไว้ใจกับคำตอบนี้ ผมเลยนัดคุณหมอครับ และเข้าไปดูแผลในวันที่ 10 ครับ


พอเจอคุณหมอ ก็ได้ฟังคุณหมออธิบายหลังดูแผลว่า เหมือนจะมีแม็คหลุดตัวนึง แต่ดูจากแผลที่เริ่มสมานกันแล้วไม่มีอะไรต้องห่วง ให้ทำแผลปกติต่อได้ครับ (ผมว่านี่คือคำอธิบาย ที่เราควรจะได้รับเวลามีปัญหาในช่วงพักฟื้น)


>> ประเด็นข้อนี้ผมเพียงอยากเล่าให้ทางสถานนี้ให้บริการขลิบ ที่อาจได้แวะเข้ามาอ่านนะครับ อยากให้ท่านเข้าใจความรู้สึกของลูกค้าที่เจอปัญหา บางทีเค้าอยากได้คำอธิบายที่ดูใส่ใจเท่านั้นเองครับ




** คนอื่นแม็กเริ่มหลุดตั้งแต่ 14 วัน แต่เคสผมวันที่ 27 ยังคาอยู่ 18 ตัว **


อันนี้ก็เป็นงงมากครับ ส่วนนึงคิดว่า จากที่น้องชายเราสั้นและเรานั่งบ่อย หนังมันก็ม้วนไปปิดแม็คเลยกลายเป็นว่าแม็คไม่ค่อยได้ขยับ มันเลยไม่หลุด จริงๆ ก็เริ่มปรึกษาผู้ช่วยตั้งแต่วันที่ 19 ในเรื่องนี้แล้วครับ คุณผู้ช่วยก็ให้ทำแผลปกติไป มันจะหลุดเอง (แอบขู่นะว่า ถ้าให้หมอเอาออก ต้องเสียเวลาเดินทางมา และเจ็บมากนะ) ผมก็เออออไปครับ แต่ในใจคือคิดแล้วว่า เดี๋ยวจะทำนัดตอนครบ4สัปดาห์ พอครบเวลา แม็คหลุดเองแค่ดัวเดียว เลยทำนัดคุณหมอไปครับ (แอบโชคดีที่คุณผู้ช่วยคนนั้นกำลังจะลาออก เลยได้ผู้ช่วยท่านอื่นดูแลทำนัดให้)


จากที่คุยกับคุณผู้ช่วยคนใหม่ คุณเค้าว่า 4สัปดาห์แล้ว น่าจะถอดแม็คได้เลยนะครับ ผมก็บอกว่า ได้ครับ ถ้าคุณหมอเห็นว่าถอดได้ก็ทำเลย พอมาโรงพยาบาล เค้าทำนัดคุณหมอทีมถอดแม็คไว้แล้ว ก็เลยได้ถอดแม็คครับ แต่เชื่อหมอว่าเจ็บนิดหน่อยเลยไม่ฉีดยาชา ปรากฏ เจ็บมากครับ คุณหมอว่า แม็คยังอยู่ลึกอยู่เลย พอถอดได้ 10 ตัวคือไม่ไหวแล้ว เลยทำนัดหลังจากนั้นอีก 5 วัน (วันที่ 34) เพื่อถอดแม็คที่เหลือครับ นาทีที่เสร็จคือโคตรดีใจที่การเดินทางนี้ได้จบลงเสียที


>> คุณหมอให้ความเห็นเรื่องแม็คเหลือเยอะว่า ปัจจัยนึงอาจจะเป็นเพราะผิวบางคนไม่ค่อยขับเหงื่อและสิ่งสกปรกมาก ก็มีผลให้แม็คเคลื่อนตัวน้อย ส่วนตัวผม ผมคิดว่าถ้าน้องชายสั้น หรือเรานั่งเก้าอี้นานๆ ทั้งวัน อาจจะมีผลให้แม็คหลุดช้าได้นะครับ






** เจอปัญหาอื่นๆให้กวนใจอีกนะ แต่ถ้าใจเย็นๆ มันจะดีเองครับ **


นอกจากเลือดออก และ แม็คหลุดช้า ก็ยังมีเรื่องแผลบางมุมมันนูนๆ ดูเหมือนเป็นติ่งเนื้อ และ แม็คชี้ที่ทำให้พันแผลแล้วเจ็บ ก็ใจเย็นๆ ค่อยๆหาทางนะ อย่างแม็คชี้ ผมก็ป้ายขี้ผึ้งหนาๆ ตอนทำแผลเลย ช่วยได้ แต่ท้ายที่สุด หลังถอดแม็คแล้ว มันก็หมดไปครับ



>> สุดท้ายต้องใจเย็นอย่างเดียวครับ ท่องไว้ๆๆ


[ ปิดท้าย ผมขอสรุปความรู้สึกช่วงพักฟื้นให้ผู้ที่สนใจจะขลิบรับทราบและเตรียมใจนะครับ แต่อย่างไรก็ดี "ทำเหอะ มันดีกว่าจริงครับ" ]
- 7 วันแรก ตอนนอนมันก็จะทรมานหน่อย เจ็บๆ แปล๊บๆ นอนตะแคงไม่ได้ ใครติดนอนตะแคงแบบผม ลำบากหน่อยครับ
- ช่วงพักฟื้น เวลามีปัญหา ผมเข้าใจคุณครับ มันกังวล มันเครียด  ผมว่าถ้ากังวลมากและไม่ลำบากเกินไป นัดคุณหมอดูแผลครับ มันสบายใจขึ้นจริง
- เตรียมใจกับการไปซื้ออุปกรณ์ทำแผลนะ ยิ่งคุณพันแผลทายาแบบสิ้นเปลืองหน่อย ได้ไปร้านยาบ่อยแน่ อันนี้แนะนำให้ไปร้านที่ของราคาถูกหน่อยจะสบายใจขึ้น
- ผมบอกเลย ช่วงพักฟื้น คุณจะหดหู่มาก เพราะน้องชายไม่ได้ยืดเส้นยืดสายเลย อันนี้บอกตรงๆ 5555


หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจจะขลิบนะครับ และขอให้ช่วงพักฟื้นของคุณสั้นๆ หายไวกว่าผมทุกคนนะครับ






ขออภัย! โพสต์นี้มีไฟล์แนบหรือรูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คุณเข้าถึง

คุณต้อง เข้าสู่ระบบ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์นี้ หากยังไม่มีบัญชี กรุณา ลงทะเบียน

×
โพสต์ยอดนิยม

  ออฟไลน์ 

อัพเกรด  100%

7

กระทู้

34

ตอบกลับ

30 หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลระบบ

เครดิต
308789

เข็มประดับยศ 1เข็มประดับยศ 2เข็มประดับยศ 3เข็มประดับยศ 4เข็มประดับยศ 5เข็มประดับยศ 6เข็มประดับยศ 7เข็มประดับยศ 8เข็มประดับยศ 9เข็มประดับยศ 10

โพสต์ 2024-3-28 18:40:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ
หากต้องการลบ หรือแก้ไขกระทู้ ติดต่อทาง PM หรือ https://lin.ee/Bt5leJT

  ออฟไลน์ 

อัพเกรด  0.01%

4

กระทู้

284

ตอบกลับ

58 หมื่น

เครดิต

ผู้เชี่ยวชาญ

เครดิต
587593

เข็มประดับยศ 1เข็มประดับยศ 2เข็มประดับยศ 3เข็มประดับยศ 4เข็มประดับยศ 5เข็มประดับยศ 6

โพสต์ 2024-4-1 07:56:17 จากอุปกรณ์พกพา | ดูโพสต์ทั้งหมด
น่าเห็นใจ ส่วนผมขริบธรรมดาก็มีปัญหาเรื่องแผลเหมือนกัน แต่ผ่านมาได้ก็เก่งมากๆ ครับ  
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ข้อความล้วน|อุปกรณ์พกพา|ประวัติการแบน|ROIKIB | รอยขลิบ

GMT+7, 2024-7-27 17:16 , Processed in 0.021750 second(s), 28 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้