สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณพี่ๆน้องๆเพื่อนๆ ทุกคนในบอร์ดที่ได้รีวิวเคสและแชร์ ปสก ต่างๆของการขริบให้เป็นประโยชน์และนำไปสู่การตัดสินใจขริบครั้งนี้ของผม ผมตัดสินใจอยู่ร่วมหลายปีที่อยากจะขริบ ปีนี้อายุ 35 ครับ แต่ก็กล้าๆกลัวๆ เพราะพื้นฐานเป็นคนที่กลัวเข็ม กลัวเลือด กลัวเจ็บมากๆ แต่ก็ศึกษาหาข้อมูลไว้ตลอดๆ และด้วยน้องชายปกติหัวเปิดได้ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องปลายตีบหรือใดๆ ทำเพื่อความสวยงามและความสะอาดล้วนๆ 555 สนองนีดตัวเอง
ทีแรกก็ลังเลว่าจะขริบไร้เลือด หรือแบบเลเซอร์ จี้ไฟฟ้า เย็บไหมละละลายดี ก็เก็บข้อมูล ดูรีวิวมาเรื่อยๆ จนได้มาเจอรีวิวเคสผลงานของพี่ๆ ที่ทำกับคุณหมอประภากร รพ. พระรามเก้า ผมชอบสไตล์การขริบแบบชิดหัว แบบนี้ล่ะคือใช่เลยที่อยากได้ และภาพรวมของทุกๆเคสก็ออกมาหล่อสวย ถูกใจเลย และด้วยความเป็น รพ มาตรฐานด้วย จึงทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ประกอบกับปีนี้บริษัทผมมีประกาศหยุดยาวช่วงสงกรานต์พอดี เอาว่ะ ตารางลงตัวพอดี เลยนัดพบปรึกษาคุณหมอก่อนดีกว่า เพื่อประเมินเบื้องต้น
จึงทักแอดไลน์ของ รพ ไป และได้นัดหมายเรียบร้อย 5 เมษา ถึงวันนัดตื่นเต้นพอสมควรครับ แต่พอได้พูดคุยกับคุณหมอก็คลายไปบ้าง เปิดรูปเคสของพี่ๆในบอร์ดเป็นเรฟเลยครับ 555 ว่าชอบผลงานของคุณหมอ สไตล์ชิดหัวมาก คุณหมอก็ขำๆ ผมบอกว่าในบอร์ดมีศิษย์พระรามเก้าหลายเคสเลย แล้วคุณหมอก็ให้ขึ้นเตียง ถอดกางเกงลงครึ่งขา แล้วคุณหมอก็จับน้องชายพลิกดูไปมา ไม่นานมากก็เสร็จ แล้วก็ออกจากห้องตรวจ เพื่อรอนัดคิวผ่าตัด ถ้าใครจะใช้ประกันร่วมด้วยแจ้งคุณหมอได้เลยนะครับ เค้าจะเขียนเคสให้เพื่อใช้เคลมประกันได้
หลังจากนั้น ประมาณ 1-2 วัน พยาบาลโทรมานัดคิว และคอนเฟิร์มผ่าตัดเป็นวันที่ 12 เมษา หลังจากนั้นผมก็คิดแต่เรื่องขริบเวียนวนในหัวทุกวัน เพราะกลัวเจ็บ 555 จนก่อนถึงวันขึ้นเขียง พยาบาลได้โทรมาคอนเฟิร์มอีกรอบ และแนะวิธีการเตรียมตัวต่างๆ พร้อมแจ้งรายละเอียดเบื้องต้น วันผ่าตัด นัดเช้าประมาณ 8 โมงเช้า เพื่อเตรียมตัวเจาะเลือด ตรวจ HIV และต่างๆ รอผลจนประมาณ 9 โมงกว่าๆ พยาบาลก็ให้ขึ้นไปห้องรอผ่าตัด เปลี่ยนชุด ได้ใส่เป็นชุดคลุมแต่ใส่กลับหลัง ใส่หมวก และมานั่งรอ ตอนนั้นมือเริ่มเหงื่อออกแล้วครับ โคตรตื่นเต้น มองไปข้างๆ มีเคสก่อนหน้าผมหนึ่งท่าน นั่งรอเรียกอยู่ ดูอาการเค้าก็คงตื่นเต้นไม่แพ้ผม 5555 สักพักนึงพยาบาลก็มารับตัวเค้าไปผ่าตัด ผมก็ยิ่งแพนิคเลยยังไงดีว่ะเรา นั่งรออยู่ประมาณครึ่ง ชม. ท่านนั้นก็เดินกลับมาพร้อมท่าเดินขากางๆ แล้ว พยล ก็ให้นั่งพักรอดูอาการอีกประมาณ 30 นาทีได้ อีกพักใหญ่ๆ ก็ถึงตาผมแล้วครับ พยบ เดินมาหา ถามไถ่เล็กน้อย แล้วก็พาเดินไปห้องผ่าตัด ใจผมเต้นแรงเลย ขึ้นเตียงผ่าตัดครั้งแรกในชีวิต แสงขาวสว่างมาก มี พยบ ในห้อง 3 ท่าน แล้วเค้าก็เอาอุปกรณ์เป็นแผ่นเย็นๆใช้ห้ามเลือดมาแปะไว้ที่ต้นขาด้านขวา และมีผ้ามาคลุมขาให้อุ่นเลยครับ และผ้าที่ต้องใช้ผ้าตัดต่างๆ พยบ ก็บอกทุกขั้นตอนว่าจะทำอะไรบ้าง เริ่มจากขอทำความสะอาดน้องชายด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อแบบชุ่มมม ระหว่างนั้น พยบ ก็พูดคุยให้เราคลายเครียด เพราะผมบอกว่าผมตื่นเต้นมากๆ ไม่เคยเข้าห้องผ่าตัดแบบนี้ ผมเหลือบไปเห็นจอคอมเปิดอยู่ เลยสอบถามคุณ พยบ ไปว่าผมขอเปิดเพลงตอนผ่าตัดได้ไหมครับ เพราะไม่อยากได้ยินเสียงอุปกรณ์หรือใดๆ 5555 พยบ ก็น่ารักมากๆครับ ถามด้วยว่าจะเอาเพลงอะไร เปิดยูทูปให้ฟังไปเรื่อยๆเลย จนคุณหมอเข้ามา ก็พูดกับเราอีกรอบนึงว่าเราจะผ่าตัดอะไรกัน แล้วก่อนฉีดยาชา คุณหมอก็จะบอกก่อน ตอนนี้ผมตื่นเต้นมากๆ เหงื่อเต็มมือ จังหวะที่เข็มยาชาจิ้มไปที่หัวเหน่า ผมหายใจลึกๆ และร้องเพลงพึมพัมตามไปกับยูทูป เอ๊ะ มันไม่ไดเจ็บอยากที่คิดแหะ และชาเร็วมาก คุณหมอจับๆไปทั่วๆน้อง ถามว่าชามั้ย เจ็บมั้ย ผมบอกว่าไม่เจ็บแล้วครับ หลังจากนั้นผมก็แค่รู้สึกว่ามีอะไรมาจิ้มๆทั่วลำเลย แต่มันไม่เจ็บเลย 555 ต่อมาคุณหมอก็บอกเราว่าจะเริ่มจี้หนังออกแล้วนะ เสียงจี้ๆเหมือนตอนเราเลเซอร์สิว CO2 เลยครับ เสียงจี๊ดๆ กลิ่นหนังไหม้ลอยมาเลย 555 จนเสร็จ คุณหมอบอกเย็บแผลละนะ ปิดแผลเสร็จสิ้นกระบวนการ ผมนี่โล่งเลย แบบเสร็จแล้วสักที ประมาณ 30 นาที เหงือแตกจนชุดเปียกเลย แล้วก็ค่อยๆลุกขึ้น เดินมานั่งพักแบบเคสก่อนหน้าเลย เปลี่ยนชุด และผมขอยาพารากับ พยบ อัดเลยสองเม็ด เพราะกลัวว่าตัวเองจะปวดแผล นั่งแป๊ปนึงก็ไปให้กลับบ้านได้เลยครับ คุณหมอก็แจ้งนัดพบอีกทีในวันถัดไป
ได้ยาฆ่าเชื้อและเบตาดีนแบบเจลกลับบ้านมา คืนแรกลุ้นเลยว่าจะเป็นอย่างไร อ่อแผลห้ามโดนน้ำเลยนะครับ คืนแรกก็เช็ดตัวเอาครับ ลุ้นกลางดึกว่าน้องจะตื่นมั้ย เพราะอ่านที่พี่ๆเขียนไว้ว่าเจ็บๆกัน ให้ระวังแแผลปริ 5555 หลับไปตื่นมาตอนตีสาม น้องพองตัว แต่ไม่เจ็บแหะ มันแค่ฟีลหน่วงๆ ผมก็คดตัวช่วย มันก็ค่อยๆอ่อนลง บางทีก็ค่อยๆลุกจากเตียงเลย พอช่วยได้ครับ เน้นท่านอนหงาย เปิดผ้าห่มไว้ ให้มันแห้งไวไว 555 ช่วงนี้แนะนำให้นั่งฉี่นะครับ เพราะจะได้ไม่เลอะ ควบคุมง่ายและใช้ทิชชู่ซับหลังฉี่ทุกครั้ง ผ้าก๊อชจะได้ไม่เปียกและอับชื้น
วันรุ่งขึ้น มาพบคุณหมอตามนัดช่วงเช้า ก็เปิดแผลครั้งแรก ผมยังไม่ค่อยกล้าดูเต็มๆตา เพราะกลัวเลือด 555 คุณหมอก็บอกว่าแผลสวย ไม่บวมเลยหนิ เปิดผ้าได้เลย ไม่ต้องปิดผ้าก๊อชแล้ว ผมก็เอ๊ะไวขนาดนั้นเลยหรอครับ และคุณหมอก็สอนวิธีทำแผล ให้ใช้คอตตอนบัดป้ายยามาทารอบๆรอยแผล แค่นั้นเลย ทำ 2 เวลา เช้า เย็น ถ้าจะออกไปข้างนอกก็ปิดผ้าก๊อชกับมันเสียดสีได้ แต่ยังห้ามโดนน้ำอยู่ หมอนัดอีกที 7 วัน (19 เมษา) ระหว่างนั้นก็ไม่มีอาการอะไรน่าตื่นเต้นแล้วครับ มันเป็นรูทีนไปแล้ว ทำวนไป แผลไม่เจ็บ ไม่ปวดใดๆเลย แต่จะรู้สึกหน่วงๆ ตึงๆ เวลาน้องตื่นกลางดึกแค่นั้น พบหมอรอบสอง 19 เมษา คุณหมอดูแผลแล้วก็แจ้งว่า 26 เมษา ถึงโดนน้ำได้ แต่ห้ามแช่น้ำนะ (ห้ามว่ายน้ำ) แต่อาบน้ำแบบปกติได้แล้ว ก็คือพรุ่งนี้แล้วครับที่ผมจะได้อาบน้ำน้องชายแล้ว 555 ก่อนหน้านั้น ผมใช้วิธีอาบน้ำ โดยการใช้ถุง zip lock ครอบน้องชาย แล้วพาดขึ้น ปิดเทปตรงหน้าท้องไว้ แล้วอาบน้ำ เวิร์คอยู่นะครับวิธีนี้ เคลื่อนตัวถูสบู่ได้ง่าย ลุ้นว่าหลังจากได้อาบน้ำน้องชายแล้ว ไหมจะละลายหมดมั้ย คุณหมอนัดรอบสาม 3 พค ครับ ถ้าไหมละละลายไม่หมดคุณหมอจะช่วยเอาไหมออกให้ ลุ้นเลยครับ
หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้พี่ๆเพื่อนๆน้องๆ ที่กำลังคิดจะขริบ ตัดสินใจได้ง่ายและสบายใจขึ้นนะครับ จากใจคนขี้กลัวมากๆ 555 แต่ทำแล้วมันดีจริงๆครับ แล้วมันก็จะผ่านไป เราจะรักน้องชายมากขึ้นเลย เพราะมันหล่อขึ้นจริงๆครับ 5555 ปล.ขอแผลหายดีไว้จะมาอัพผลงานอีกทีนะครับ อิอิ 
|